ต้นไม้ในขวดแก้ว

ต้นไม้ในขวดแก้วหยิบขวดแก้วมาหนึ่งขวด มีคนรักหนึ่งคน เติมน้ำในขวดแก้ว ครึ่งขวด หยิบต้นไม้ ใส่ลงไป เติมเต็มให้กับคนรัก ดูแล ห่วงใย เอาใจใส่กันและกัน นำต้นไม้ในขวดแก้วไปวางไว้ในที่ ที่ เห็นว่าสมควร เก็บเอาคนรักไว้ในใจ ให้อิสระ ซึ่งกันและกัน ต้นไม้ในขวดแก้ว ไม่ต้องดูแลเอาใจใส่ตลอดเวลา นาน ๆ เติมน้ำให้หน คนรัก ไม่จำเป็นต้องเห็นหน้ากัน หรืออยู่ด้วยกันตลอดทั้งวัน แต่ไม่ลืมว่าเรามีกันและกัน ้นไม้ในขวดแก้ว ไม่มีวันตาย ถ้าไม่ขาดน้ำ คนรัก ไม่มีวันพรากจากกัน ถ้าหมั่นดูแลหัวใจของกันและกัน ที่สำคัญ คือการซื่อสัตย์ต่อคนรัก ต้นไม้ในขวดแก้ว แตกสลายได้ง่าย เมื่อเผลอไปปัด หรือวางในพื้นที่ไม่เรียบ – หมิ่นเหม่ คนรัก แตกแยกจากกันได้ยาก หากไม่หนีปัญหา หันหน้าเข้าหากัน เอาเหตุผลมาคุยกัน ให้เกียตริกัน ทำไมต้นไม้ในขวดแก้ว ถึงไม่ตาย เมื่อมันไม่มีดิน เพราะต้นไม้บางตันหยั่งรากได้ทั้งในน้ำ หรือ ใต้ดิน ทำไมคนรักไม่หวงแหน หรือ ระแวง ว่าอีกคนมีใครซ่อนไว้หรือเปล่า เพราะ รากฐานของคนสองคนอยู่ที่การไว้ใจดังนั้น ตันไม้ในขวดแก้ว จึงดูแล ได้ง่าย เมื่อรู้ว่ามันเป็นพืชชนิดใดแต่………… คนรัก….ยากนัก หากไม่รู้จักเอาใจเค้ามาใส่ใจเรา ไม่รู้จักการให้อภัย ไม่รู้จักการไว้ไจ เราก็จะไม่มีวันรู้จัก… ความรัก…ที่แท้จริง………

Hope and Hope..

Hope and Hope..หวังคุณเคยหวังบ้างไหม.........ฉันคนหนึ่งที่มีความหวัง ความหวังที่อยากได้รับคำตอบที่หน้าพอใจ คาดหวังในเรื่องงาน เรื่องความรัก เรื่องต่างๆๆที่เราหวังจะให้สมดังใจปรารถนาแต่เมื่อความผิดหวังนั้นเข้ามาเยือนคุณรู้สึกอย่างไร รู้สึกเหมือนฉันไหม .... ..รู้สึกท้อแท้ รู้สึกเหนื่อยล้า รู้สึกหมดหวัง รู้สึกเหมือนอยู่คนเดียว รู้สึกเหมือนไม่มีใครมองเห็นเรา รู้สึกเหมือนท้องฟ้ามืดหมน รู้สึกเหมือนเดินหลงทาง รู้สึกโดดเดี่ยว......เคยมีความรู้สึกนี้บางไหม....ตอนนี้ฉันมีความรู้สึกแบบนี้ขึ้นมา....รู้สึกอยากพักผ่อน รู้สึกเหนื่อยล้า รู้สึกไม่อยากหวังต่อ รู้สึกไร้จุดหมาย เหมือนตัวล่องลอยอยู่ในอากาศเพียงลำพัง.......แต่ฉันจะไม่หยุดความหวังหรอก แต่ตอนนี้แค่อยากพัก อยากขอเวลาที่จะเริ่มหวังต่อ อยากขอเติมความหวังครั้งใหม่ให้มันพร้อมและเติมให้เต็มก่อนการเดินทางแห่งความหวังครั้งใหม่ ..บางคนมีความหวังที่แตกต่างกันไป หวังอยากใครมารัก หวังอยากได้สิ่งนั้นสิ่งที่ดี....แต่ก่อนที่จะหวังให้ใครมารัก เรารักตัวเองหรือยัง รักมากพอหรือยัง......ความหวังของฉันคือเรื่องงาน เรื่องความรัก พอฉันหวังมัน ฉันก็กลัว กลัว กลัว ความผิดหวังฉันเลยไม่กล้าที่จะหวังแต่ก็แอบหวังนิดๆๆและอยากให้สมหวัง...ความจริงแล้วฉันกลัวความผิดหวังมาก มากเสียจน ไม่กล้า ไม่กล้า เข้าไปใกลัมัน ฉันกลัว กลัวที่จะรับมันไม่ได้ และ กลัวความผิดหวัง ฉันเลยไม่กล้า ไม่เคย กล้า ด้วยซ้ำที่จะเปิดหัวใจและไม่อยากให้ใครเข้ามา ในนั้นฉันป้องกันตัวเองจากความผิดหวัง ป้องกันโดยไม่ยอมเปิดประตูให้มันเข้ามา ฉันปิดโอกาสทุกอย่างเพื่อไม่ให้มันเข้ามาหาฉันได้ ฉันปิดมันสนิทเลยที่เดียว แม้จะมีใครบางคนที่หยิบยืนความหวังนั้นมาให้ฉัน แต่ฉันไม่กล้ารับมัน ฉันกล้า กลัวว่า ถ้าฉันเกิดให้ความหวังของฉันไป ฉันอาจได้รับกับความผิดหวังนั้นก็ได้ กลัวว่าจะยอมรับมันไม่ได......ความกลัว......คุณ มีความกลัวไหม.........กลัวถูกทอดทิ้ง กลัวโดดหลอก กลัวเสียใจ กลัวความผิดหวัง กลัวเขาไม่รักกลัวเขาไม่คิดเหมือนกัน ความกลัวต่างๆๆๆนามันอยู่ในใจฉัน ฉันดูเป็นคนเข็มแข็ง แข็งแกร็งเมื่ออยู่ต่อหน้าผู้อื่น สนุกสนาน ไม่เคยมีใครเห็นความกลัวของฉัน ฉันเก็นมันไว้เพียงลำพังในใจฉันมันสบสน วุ่นวาย แต่ข้างนอกของฉันเป็นเกราะกำพังจากสิ่งที่ฉันสร้างมันไว้ สร้างมัน เพื่อป้องกันจากสิ่งต่างๆๆที่ฉันกลัว สร้างมันสูงเสียดฟ้า สร้างมันแข็งเกร่งยิ่งกว่า เพื่อมิให้มันเข้ามาได้ ไม่ให้มันเข้ามาใกลัตัวฉัน ฉันเลยปิดมัน ..............และความกลัวนี้มันอยู่กับฉันเนินนานเหลือเกิน.......ทุกครั้งที่ได้คุยกับเขา ฉันกลัว กลัว และไม่กล้าคิดไปไกล ไม่กล้าให้ความหวัง และไม่กล้าหวัง เพราะกลัวความผิดหวัง กลัวรับมันไม่ได้...เมื่อเจอหน้าเขา ฉันก็กลัว.......กลัวจนไม่กล้าเจอ..........เมื่อเจอก็ปกปิดอารมณ์ ความรู้สึกนั้น ไม่ให้เขารู้ ความรู้สึกที่ฉันกลัวอย่างยิ่งที่จะได้รับคำตอบที่ฉันกลัวนักหนา จึงทำให้กำแพงของฉันยังไม่พังสักที ............................................................................................................

เวลาแห่งชีวิต

เวลาแห่งชีวิต
ณ เสี้ยววินาทีนี้เท่านั้น ที่เรายังมีชีวิตอยู่ณ เสี้ยววินาที นี้ จึงเป็นเวลาที่มีค่าที่สุดของชีวิตจึงต้องทำเสี้ยววินาทีนี้ให้ดีที่สุด
จงมีสติอยู่กับปัจจุบันไม่พึงหวนละห้อยความหลังไม่พึงเพ้อเจ้อหวังในสิ่งที่ยังมาไม่ถึงให้มองดูให้รู้ชัดเจนหรือให้ใช้ปัญญาพิจารณาให้เห็นชัดในสิ่งนั้นๆ
เตรียมกิจสำหรับอนาคตให้พร้อมไว้อย่าให้กิจนั้นบีบคั้นตัว เมื่อถึงเวลาต้องทำเฉพาะหน้า
ความประมาทเป็นทางแห่งความตายความไม่ประมาทเป็นทางแห่งความไม่ตายคนไม่ประมาทย่อมไม่ตาย
คนประมาทเหมือนคนที่ตายแล้วการตกอยู่ในความประมาทคือเอาเฉพาะเรื่องที่เกิดขึ้นเฉพาะหน้าอะไรที่ยังมาไม่ถึงก็ไม่เอาใจใส่อะไรข้างหน้าจะเป็นอย่างไร ก็ช่างมันอยู่ไปวันๆ
การไม่ประมาทคือ การไม่ปล่อยปละละเลย ไม่นอนใจกระตือรือร้น ขวนขวาย เร่งรัดจัดทำ
วันคืนล่วงไป บัดนี้เราทำอะไรอยู่
เวลาคือชีวิต มันไม่มีวันย้อนกลับและไม่มีอะไรมาทดแทนมันได้การปล่อยเวลาให้สูญเสียไปเปล่าๆเท่ากับเป็นการปล่อยชีวิตไปเปล่าๆแต่การเป็นนายเหนือเวลาของท่าน
เท่ากับการเป็นนายเหนือชีวิตของท่านที่ท่านจะได้ประโยชน์จากมันมากที่สุดเมื่อท่านใช้เวลาให้สูญเสียไปอย่างไม่มีประโยชน์ท่านก็จะใช้ชีวิตของท่านอย่างไม่มีค่าเช่นกัน

ความแตกต่างระหว่างคำว่า "แพ้" กับ "ล้มเหลว"

ความแตกต่างระหว่างคำว่า "แพ้" กับ "ล้มเหลว"

ชายคนหนึ่งเพิ่งจะมาพูดได้ตอนอายุ 4 ขวบ
ชายคนนั้น...เพิ่งจะมาอ่านหนังสือออกตอนอายุ 8 ขวบ
ชายคนนั้น...เคยถูกไล่ออกจากโรงเรียน
ชายคนนั้น...เคยถูกปฎิเสธจากโรงเรียนอาชีวะแห่งซูริค
ชายคนนั้น...เคยถูกอาจารย์ระบุว่า "สมองช้า ไม่ชอบสังคมและล่องลอยอยู่ในความฝันอันโง่เขลาของตัว เองตลอดเวลา"
ชายคนนั้น...ชื่อ "อัลเบิร์ต ไอสไตน์" บิดาแห่งปรมาณู

ชายคนหนึ่งเคยถูกปฎิเสธจากโรงเรียนเตรียมทหารเวสต์พอ ยต์
ชายคนนั้น...ลองสมัครใหม่ดูอีกที
ชายคนนั้น...ถูกปฎิเสธอีกครั้ง
ชายคนนั้น...พยายามเป็นครั้งที่สาม
ชายคนนั้น...ได้รับอนุญาตให้เข้าเรียน
ชายคนนั้น...ได้เป็นทหารสมใจ
ชายคนนั้น...เข้าไปอยู่ในหน้าประวัติศาสตร์สงครามโลก ครั้งที่สองได้สำเร็จ
ชายคนนั้น...ชื่อ "นายพล ดักลาส แมคอาเธอร์" ผู้พิชิตแปซิฟิคแห่งสงครามโลกครั้งที่สอง

ชายกลุ่มหนึ่ง...เป็นนักดนตรี
ชายกลุ่มนั้น...เคยถูกปฎิเสธจากผุ้บริหารคนหนึ่งจากบ ริษัทเดคคาเรคคอร์ติ้ง
ชายกลุ่มนั้น...ถูกปฎิเสธด้วยเหตุผลที่ว่า "เราไม่ชอบเสียงเพลงของพวกเขา และกลุ่มนักดนตรีที่เล่นกีตาร์กำลังจะหมดสมัยแล้ว"
ชายกลุ่มนั้น...มีนามว่า "เดอะ บีเทิลส์" สี่เต่าทองแห่งตำนาน

ชายคนหนึ่ง...เป็นนักกีฬา
ชายคนนั้น...เล่นบาสเกตบอลให้กับทีมโรงเรียนมัธยม
ชายคนนั้น...เคยถูกคัดออกจากทีมโรงเรียน
ชายคนนั้น...ชื่อ "ไมเคิล จอร์แดน" หนึ่งในนักกีฬาบาสเกตบอลที่ทำเงินมากที่สุดในโลก

ชายคนหนึ่ง...เป็นนักแต่งเพลงชาวเยอรมัน
ชายคนนั้น...สูญเสียความสามารถในการฟังลงเรื่อยๆ
ชายคนนั้น...หูหนวกสนิทเมื่อมีอายุได้ 46 ปี
ชายคนนั้น...ได้ใช้ช่วงเวลาบั้นปลายชีวิตประพันธ์เพล งที่ยอดเยี่ยมที่สุด
ชายคนนั้น...ชื่อ "ลุดวิก ฟาน บีโธเฟน" นักประพันธ์เพลงชื่อก้องโลก

ชายคนหนึ่งสอบตกประถม 6
ชายคนนั้น...เคยมีชีวิตที่พ่ายแพ้และล้มเหลวมาตลอด
ชายคนนั้น...ล้วนทำประโยชน์ครั้งใหญ่ๆเมื่อเขากลายเป ็นผู้สูงอายุแล้ว
ชายคนนั้น...ได้เป็นนายกรัฐมนตรีอังกฤษเมื่ออายุ 62 ปี
ชายคนนั้น...ชื่อ "วินสตัน เชอร์ชิล" อดีตนายกรัฐมนตรีอังกฤษ

ชายคนหนึ่งเรียนปริญญาตรี
ชายคนนั้น...เคยถูกจัดให้เป็นแค่นักศึกษาระดับกลางเท ่านั้น
ชายคนนั้น...เคยสอบได้อันดับที่ 15 จากนักศึกษา 22 คนในวิชาเคมี
ชายคนนั้น...ชื่อ "หลุยส์ ปาสเตอร์"

ชายคนหนึ่งเป็นนักร้อง
ชายคนนั้น...เคยถูกผู้จัดการของ แกรนด์โอเลโอเพรย์ไล่ออก
ชายคนนั้น...เคยโดนดูถูกว่า "แกมันไปไม่ถึงไหนเลย แกควรกลับไปขับรถบรรทุกมากกว่า"
ชายคนนั้น...ชื่อ "เอลวิส เพรสลีย์"

หญิงคนหนึ่งเป็นนางแบบผู้เปี่ยมไปด้วยความหวัง
หญิงคนนั้น...ทำงานให้กับบริษัทบลูบุ๊คโมเดลลิ่งเอเจ นซี่
หญิงคนนั้น...เคยโดนผู้อำนวยการบริษัท บลูบุ๊คโมเดลลิ่งเอเจนซี่ดูถูกว่า
"
เธอควรไปเรียนด้านเลขาฯ หรือไม่ก็แต่งงานเสียดีกว่า"
หญิงคนนั้น...ชื่อ นอร์มา จีน เบเกอร์ หรือที่รู้จักกันในนาม "มาริลีน มอนโร"
นั่นเอง

ชายคนหนึ่ง หลงใหลวิชาการเงินอย่างมาก
ชายคนนั้น...ยื่นใบสมัครกับมหาวิทยาลัยธุรกิจฮาวาร์ด อันเลื่องชื่อ
ชายคนนั้น...ถูกปฎิเสธในเวลาต่อมา
ชายคนนั้น...ไม่ยอมแพ้ เดินหน้าเข้าศึกษาที่มหาวิทยาลัยธุรกิจโคลัมเบีย
ชายคนนั้น...สำเร็จการศึกษา
ชายคนนั้น...ปัจจุบันมีสินทรัพย์รวมกว่า 44,000 ล้านเหรียญสหรัฐ จากเงินลงทุน พียง 100 เหรียญสหรัฐ
ชายคนนั้น...ชื่อ "วอเรน บัฟเฟตต์" นักลงทุนอัจฉริยะ อภิมหาเศรษฐีอันดับสองของโลก

ชายคนหนึ่ง หลงใหลในคอมพิวเตอร์อย่างมาก
ชายคนนั้น...ชอบหมกตัวกับคอมพิวเตอร์เป็นเวลานานๆ
ชายคนนั้น...ถูกเพื่อนมองว่า "สกปรก - บ้าคอมพิวเตอร์"
ชายคนนั้น...เคยเสนอซอฟแวร์ระบบให้กับ แอปเปิ้ลคอมพิวเตอร์
ชายคนนั้น...ถูกปฎิเสธอย่างไม่ใยดี
ชายคนนั้น...ปัจจุบันคือผู้ให้การช่วยเหลือด้านเงินทุนกับ แอปเปิ้ลคอมพิวเตอร์
ชายคนนั้น...เคยถูก ไอบีเอ็ม มองว่า "แค่เด็ก"
ชายคนนั้น...ปัจจุบันเป็นผู้นำบริษัทซอฟแวร์ที่ทรงอิทธิพลมากที่สุดในโลก
ชายคนนั้น...ชื่อ วิลเลี่ ยม เฮนรี่ เกตส์ ที่สาม หรือที่รู้จักกันในนาม "
บิลล์ เกตส์" ผู้ก่อตั้งไมโครซอฟต์ มหาเศรษฐีอันดับหนึ่งของโลก ผู้ถือครอง
สินทรัพย์กว่า 46,000 ล้านเหรียญ

ผมเชื่อว่าทุกคนเคยแพ้ ผมเชื่อว่าทุกคนเคยล้มเหลว

แต่คนแพ้ไม่ใช่คนที่ล้มเหลว

คนล้มเหลวคือ...คนที่ล้มเลิกต่างหาก

เมื่อแฮกเกอร์มือดีถูกจับได้

เมื่อแฮกเกอร์มือดีถูกจับได้ อย่างฮา555










ภาพเคลื่อนไหวสวย ๆ จ้า

ภาพเคลื่อนไหวสวย ๆ จ้า












อย่ารอคอย

ย่ารอคอย...

Don't wait for a smile, to be nice.
อย่ารอคอยให้ได้รับรอยยิ้ม แล้วจึงทำดี

Don't wait to be loved, to love.
อย่ารอคอยให้มีคนรัก แล้วจึงมอบความรักให้ผู้อื่น

Don't wait to be lonely, to recognize the value of a friend.
อย่ารอคอยจนกลายเป็นคนโดดเดี่ยว แล้วจึงเห็นคุณค่าของเพื่อน

Don't wait for the best job, to begin to work.
อย่ารอคอยให้ได้งานที่ดีที่สุด แล้วจึงเริ่มทำงาน

Don't wait to have a lot, to share a bit.
อย่ารอคอยให้มีมากๆ แล้วจึงเริ่มแบ่งปันเพียงน้อยนิด

Don't wait for the fall, to remember the advice.
อย่ารอคอยจนพบความล้มเหลว แล้วจึงจดจำคำแนะนำของผู้อื่น

Don't wait for pair, to believe in prayer.
อย่ารอคอยจนพบเนื้อคู่ แล้วจึงเชื่อในคำอธิษฐาน

Don't wait to have time, to be able to serve.
อย่ารอคอยให้มีเวลา แล้วจึงทำประโยชน์

Don't wait for anybody else pain, to ask for apologies
neither seperation to make it up.
อย่ารอคอยให้คนอื่นเจ็บปวดเสียก่อนแล้วจึงขอโทษ
หรือต้องเลิกคบกันก่อน แล้วจึงหวนมาคืนดี

Don't wait.......Because you don't know how long it will takes.
อย่ารอคอย.... เพราะคุณไม่รู้ว่ามันจะต้องใช้เวลานานเท่าใด

อย่ารอคอย...จงกระทำ

ืีที่ว่าง

ี่ว่าง

เหลือที่ว่างให้ความรักบ้าง
แล้วจะพบว่า
ในระหว่างที่ว่างของความสัมพันธ์นั้น
มันทำให้ชีวิตแตกต่างออกไปจากเดิม

มันทำให้ขยับตัวง่ายกว่าเดิม
มันทำให้ความสัมพันธ์ไม่อึดอัดจนเกินไป
มันทำให้เรารักได้อย่างเต็มที่ และอิสระ

Allow some space in between.
Allowing personal space to your love one
and yourself will ultimately make some sense out of you.
Between the space you allow,
your life will be a little bit more interesting.
You will not feel loaded.
You will even feel better when you are together.
You are bound to have quality time together
with your love one.

ปล่อยให้ความสัมพันธ์มีที่ว่าง
แต่อย่าปล่อยให้ความสัมพันธ์มีช่องว่าง

ช่องว่างมันคือการไม่หันหน้าเข้าหาปัญหา
และไม่หันหน้าเข้าหากัน
ที่ว่างคือการให้เกียรติกันและกัน
และการปล่อยอิสระในการมีตัวตนของกันและกัน

เมื่อมีที่ว่าง ก็เกิดความสบายตัว
เมื่อสบายตัว ก็ไม่รู้สึกอึดอัด
เมื่อไม่รู้สึกอึดอัด ก็อยากอยู่ด้วยกันนานๆ
ขยับตัวก็ง่าย
ใกล้กันก็ไม่ลำบากใจ
ไกลกันก็ยังรู้ใจกันอยู่เสมอ

เมื่อรักอย่างปล่อยวาง
จะรักได้อย่างไม่กลัวอะไร
และไม่กลัวจะต้องเสียใจ

ไม่มีใครเป็นตัวแปรความรักของเราได้
นอกจากตัวเราเอง

You are the only one
who determines how the love of your life
will be like.

จาก "เหลือที่ว่างให้ความรักนั่งพัก" ต้นกล้า นัยนา

แบ่งที่ว่างตรงกลางไว้คอยเพื่อให้เราไปถึงดั่งฝันร่วมกั

ความรัก...ก็เช่นนี้

วามรัก...ก็เช่นนี้

โลกมีหลายสิ่งหลายอย่าง . . . เปลี่ยนแปลงมากขึ้นทุกวัน
ไม่ว่าภาวะโลกร้อน . . . น้ำจะท่วมโลก . . . หรือแผ่นดินจะไหว



ก็เหมือนชีวิตคนเราย่อมมีความไม่แน่นอน
ตอนนี้เราอาจกำลังยิ้ม . . . อีกประเดี๋ยว . . . เราก็อาจกำลังร้องไห้
แล้วอีกสักเดี๋ยว . . . เรากำลังหัวเราะก็ได้ ไม่มีอะไรแน่นอน . . .
ชีวิตก็เหมือนละคร แล้วแต่ว่าเรากำลังเล่นบทอะไร
มันมีทั้งสุข
และทุกข์ คละเคล้ากันไป

โดยเฉพาะความรัก . . . มักเล่นตลกกับตัวละครเสมอ
ใครสุขสม . . . ก็ปลื้มกันไป
ใครทุกข์ตรม . . . ก็เศร้าหมองปวดร้าว
แต่ไม่ว่า เราจะต้องเล่นบทอะไร
เราก็ต้องยอมรับให้ได้ว่า . . . ไม่ว่าผิดหวัง . . . หรือว่าสมหวัง . . .
เราก็ต้องเผชิญกับความเป็นจริงให้ได้ เพื่อตัวเราเอง

ยามสมหวัง . . . เราก็สุขใจ . . . และมีกำลังที่จะเดินต่อไปข้างหน้าอย่างเปี่ยมล้น

แม้ยามผิดหวัง . . . ถึงจะทุกข์ . . . แค่ไหน
เราก็ต้องมีกำลังเดินต่อไปข้างหน้าเช่นกัน
อย่ามัวแต่โทษว่าเป็นความผิดของใคร . . . หรือโทษฟ้าโทษดิน
หรือโทษคนโน้น คนนี้ โทษไม่เรื่อย ไม่สิ้นสุด

หากวันนี้ . . . เราอยากร้องไห้ . . . ก็ร้องเสียให้หมด . . .
ร้องเสียทีเดียวให้สุด . . . เท่าความผิดหวังและเสียใจที่มี
แล้วลุกขึ้น..เพื่อยิ้มรับกับวันใหม่ของเรา
เพราะไม่มีใครสุขได้ตลอด หรือทุกข์ไม่จบไม่สิ้น

อย่ายึดติดกับอดีตที่ผ่านมา ไม่ว่าสุข หรือ ทุกข์
เก็บอดีต . . . ไว้ในความทรงจำ . . . เพื่อเป็นคติเตือนใจ
ให้เราก้าวต่อไปข้างหน้าได้อย่างมั่นคง
ให้เราฝ่าฟันอุปสรรคต่าง ๆ ด้วยความแข็งแกร่ง

แค่เรามีสติ . . . ยึดมั่นใน . . . พระพุทธ . . . พระธรรม . . . พระสงฆ์
หรือสิ่งที่เรานับถือ บูชา . . . ในดวงใจ เป็นที่มั่น
ถึงวันนี้ . . . จะไม่มีใครรักเรา . . . แต่จงจำไว้ . . .
ไม่มีใคร . . . รักเรา . . . มากเท่าตัวเราเอง . . .

ไม่มีชัยชนะใดยิ่งใหญ่ ..เหนือชนะ ตนเอง
คุณว่าใช่ หรือ ไม่

Source...Kapook.com

ไม่ว่าจะต้องเจ็บปวดสักเพียงไหน
ไม่ว่าจะต้องทุกข์ทนเท่าไหร่
คุณมีกำลังใจเสมอ

...ที่แห่งนี้...
ยังมีความรักอยู่
คอยรับรู้และคอยเข้าใจ
แม้ภายนอกจะเป็นอย่างไร
หัวเราะปวดร้าวแค่ไหนก็ไม่สำคัญ

คุณมีพลังในการสารภาพรักแค่ไหน

ณมีพลังในการสารภาพรักแค่ไหน

ขอเปลี่ยนบรรยากาศ
โดยมีแบบทดสอบให้ลองเล่นกัน
เรื่อง "
คุณมีพลังในการสารภาพรักแค่ไหน"

1. ในตอนเช้าคุณตื่นขึ้นมาด้วย

- นาฬิกาปลุก (ไปข้อ 2)

- มีคนมาปลุก (ไปข้อ 5)

2. คุณเตรียมสิ่งจำเป็นสำหรับออกไปข้างนอกตอนไหน

- ส่วนใหญ่จะในตอนเช้า (ไปข้อ 3)

- เตรียมไว้ล่วงหน้าตั้งแต่กลางคืน (ไปข้อ 6)

3. ถ้าคุณตื่นสายไม่ว่าจะรีบยังไงก็ไม่ทันแล้ว คุณจะ...

- ไม่ว่าจะยังไงก็วิ่งไว้ก่อน (ไปข้อ 4)

- วิ่งไปก็เท่านั้น ยังไงก็ไม่ทันอยู่แล้ว (ไปข้อ 7)

4. เด็กเจี๋ยมเจี้ยมคนหนึ่งกำลังถูกครูด่าว่าไปดัดผมมา ทั้งๆที่เป็นผมหยิกธรรมชาติ คุณรู้สึกว่า...

- เย้ !! (ไปข้อ 13)

- ครูใจร้าย (ไปข้อ 8)

5. คุณพบว่าเพื่อนตัดผมยาวแสนสวยซะสั้นกุด

- น่าเสียดายจัง (ไปข้อ 6)

- เข้ากับเธอดีนะ (ไปข้อ 9)

6. คุณเกลียดดาราที่เขาชื่นชอบมากต่อหน้าเขา คุณจะ...

- บอกไปเลยว่าฉันไม่ชอบ (ไปข้อ 9)

- ทำเป็นชอบเหมือนกัน (ไปข้อ 3)


7. ในระหว่างสอบคุณนั่งอยู่หน้าสุด คุณเห็นครูนั่งสัปหงกอยู่ คุณจะ...

- สะกิดครู (ไปข้อ 9)

- สะกิดเพื่อนข้างๆ (ไปข้อ 12)

8. มีนักเรียนจากอเมริกาย้ายมาที่โรงเรียน เขาพูดไทยไม่ค่อยได้ คุณจะ...

- ค่อยๆพูดกับเขาด้วยภาษาไทยช้าๆ (ไปข้อ 13)

- พยายามพูดด้วยภาษาอังกฤษงูๆปลาๆ (ไปข้อ 12)


9. เขาเป็นคนแบบไหน

- แบบหมาที่ซื่อสัตย์มั่นคง (ไปข้อ 10)

- แบบแมวที่ทำอะไรตามอารมณ์ (ไปข้อ 11)

10. ถ้าคุณลืมเอาช้อนและตะเกียบใส่มาในกล่องข้าว คุณจะ...

- ทนเอาไม่กินก็ได้ (ไปข้อ 7)

- รอเพื่อนกินเสร็จแล้วขอยืม (ไปข้อ 11)


11. ตอนพักกลางวันคุณกำลังง่วงมาก จู่ๆเพื่อนก็มาชวนไปเล่นวอลเลย์ คุณจะ...

- ช่วยไม่ได้ไปเล่นละกัน (ไปข้อ 17)

- ปฏิเสธ (ไปข้อ 15)

12. กำลังนั่งเรียนอยู่ไส้ดินสอเกิดหมดขึ้นมา คุณจะขอยืมจากใคร

- ผู้ชายข้างๆที่ไม่ค่อยพูดกัน (ไปข้อ 15)

- เพื่อนสนิทที่นั่งอยู่ไกลออกไป (ไปข้อ 14)


13. คุณได้รับของขวัญราคาแพงจากผู้ชายที่ไม่รู้จัก คุณจะคิดว่า...

- ผู้ชายคนนี้บ้ารึเปล่า (ไปข้อ 17)

- อืม..ชอบฉันขนาดนี้เลยเหรอเนี่ย (ไปข้อ 16)

14. ตอนทำความสะอาด คุณเผลอทำรูปบนบอร์ดที่เขาวาดขาด คุณจะ...

- ไม่กล้าบอกเขาหรอก (ไปข้อ 17)

- ไปบอกแล้วขอโทษ (ไปข้อ 18)


15. ของฝากที่ซื้อมาให้เพื่อนในกลุ่มขาดไปชิ้นหนึ่ง คุณจะ...

- ไม่ให้ใครเลยซักคน (ไปข้อ 22)

- ให้จับฉลากเอา (ไปข้อ 18)

16. คุณเดินเข้าไปในห้องเจอรุ่นพี่คนหนึ่งกำลังร้องไห้อยู่ คุณจะ...

- ทักทายแล้วก็จากไป (ไปข้อ 20)

- ถามว่าร้องไห้ทำไม (ไปข้อ 19)


17. คุณไม่อยากเห็นเขาในลักษณะไหนมากที่สุด

- หยิบร่มของคนอื่นกางกลับบ้านเฉยเลย (ไปข้อ 21)

- มีสาหร่ายติดอยู่ที่ฟัน (ไปข้อ 20)

18. คุณไปเที่ยวที่บ้านเพื่อน ชาที่เพื่อนเอามาเสิร์ฟนั้นจางมาก คุณจะ...

- กินคำเดียวแล้วก็เลิก (ไปข้อ 21)

- อดทนกินต่อไป (ไปข้อ 22)


19. คุณมีโอกาสเสี่ยงโชคด้วยเงิน 1000 บาทครั้งเดียว โอกาสที่ถูกมี 1 ใน 2 ถ้าถูกจะได้ 5000 คุณจะ...

- ไม่เสี่ยงดีกว่า (ไปข้อ 24)

- อย่างนี้มันต้องลองดู (ไปข้อ 23)

20. เด็กที่ถูกอุ้มอยู่เอารองเท้าเตะมาโดนเสื้อคุณแต่แม่เด็กกลับไม่รู้เรื่อง คุณจะ...

- ต้องเตือนเขาซักหน่อย (ไปข้อ 21)

- ช่างเถอะเฉยดีกว่า (ไปข้อ 23)


21. คุณเคยเขียนไดอารี่ติดกันเป็นเวลา 1 เดือนหรือไม่

- YES (ไปข้อ 25)

- NO (ไปข้อ 24)

22. เพื่อนคุณทำท่าจะลูบหัวลูกหมาน่ารักตัวหนึ่ง แต่ที่กรงเขียนว่า ?ระวังสุนัขดุ? คุณจะ...

- ห้ามเพื่อน (ไปข้อ 29)

- ไม่เป็นไรหรอกแค่ลูกหมาเท่านั้นเอง (ไปข้อ 25)


23. กระเป๋าตังค์ที่คุณใส่รูปของเขาที่มีอยู่แค่ใบเดียวตกหาย พอมาเจออีกทีเงินหายไปหมดเลยแต่รูปยังอยู่

- แย่ที่สุดเลยทำไมเป็นอย่างนี้ (ไปข้อ 26 )

- เฮ้อ..โชคดีจังรูปยังอยู่ (ไปข้อ 27)

24. มีคนแจกแชมพูยี่ห้อที่คุณไม่ชอบ

- คุณจะ รับแจก (ไปข้อ 26)

- ไม่รับล่ะ (ไปข้อ 27)


25. คุณขึ้นรถเมล์ที่แน่นมากแล้วเจอเพื่อนกำลังนั่งหลับอยู่ มียายแก่ๆคนหนึ่งอยู่ข้างหน้า คุณจะ...

- ปลุกเพื่อน (ไปข้อ 29 )

- ปล่อยไปแบบนั้น (ไปข้อ 24)


26. รองเท้าสุดโปรดที่คุณเก็บไว้อย่างดีเกิดคับขึ้นมา คุณจะ...

- เก็บไว้อีกหน่อยละกัน (ไปข้อ 31)

- ให้คนอื่นไปดีกว่า (ไปข้อ 30)


27. เพื่อนขอให้คุณอัดวีดีโอให้แต่คุณลืมซะสนิทเลย คุณจะขอโทษเพื่อนยังไง

- คงต้องพูดความจริงน่ะแหละ (ไปข้อ 28)

- บอกว่าเครื่องเสีย (ดูเฉลยข้อ B)

28. ตอนที่คุณอาบน้ำอยู่ครีมล้างหน้าที่คุณใช้เป็นประจำเกิดหมดขึ้นมา คุณจะออกไปซื้อไหม

- แน่นอน (ดูเฉลยข้อ C)

- ไม่ล่ะล้างด้วยสบู่ไปก่อนล่ะกัน (ไปข้อ 32)


29. คุณออกไปซีร็อกกระดาษแค่แผ่นเดียว แต่ที่ร้านมีคนรออยู่เยอะมาก คุณจะ...

- ขอซีร็อกก่อนนะแค่แผ่นเดียวเอง (ไปข้อ 32)

- เดินออกจากร้านอย่างเซ็งๆ (ดูเฉลยข้อ D)

30. คุณไปซื้อไอศกรีมในร้านดัง คนเยอะมากพนักงานตักไอศกรีมให้คุณผิด คุณจะ...

- ช่างเถอะเขากำลังยุ่ง (ดูเฉลยข้อ A )

- ต้องบอกให้เปลี่ยนใหม่ (ไปข้อ 31)


31. วันนี้แม่ของคุณทำกับข้าวไม่อร่อยเลย คุณจะพูดว่า...

- อย่าทำกับข้าวนี้อีกนะ (ดูเฉลยข้อ B)

- ความล้มเหลวเป็นหนทางสู่ความสำเร็จ (ดูเฉลยข้อ A)

32. คุณทำงานอยู่กลางดึก อยู่ๆไฟก็ดับขึ้นมาในช่วงเวลานั้น คุณคิดว่า...

- แย่จังทำงานไม่ได้เลย (ดูเฉลยข้อ C)

- ฉันไม่ได้ขี้เกียจนะไฟมันดับเองนี่ (ดูเฉลยข้อ D)




ผลทดสอบ : คุณมีพลังที่จะสารภาพรักแค่ไหน?

A :

คนที่หาสะพานไม่เจอ คุณไม่มีความคิดที่จะสารภาพรักเลยแม้แต่นิดเดียว เพราะคุณมักจะกังวลว่า ?ถ้าถูกปฏิเสธล่ะ?? คุณเลยล้มเลิกความตั้งใจซะตั้งแต่ต้น ปลุกพลังรักที่หลับใหลอยู่ในตัวคุณขึ้นมาซะ แล้วก็หันหน้าออกมาเผชิญโลกซะที


B :

คนที่ได้แต่มองสะพานแล้วก็เดินผ่านไป คุณเห็นเพื่อนกล้าสารภาพรักแล้วก็ได้แต่อิจฉา เฝ้าหวังว่า ?ซักวันหนึ่งฉันก็จะทำได้เหมือนกัน? แล้วเมื่อไหร่ล่ะ ดึงเอาความกล้าหาญของคุณออกมาแล้วก้าวต่อไปเลย

C :

คนที่เคาะสะพานแล้วก็เดินจากไป คุณน่ะวางแผนจะสารภาพรักมาไม่รู้กี่ครั้งแล้วแต่ไม่เคยทำซักที ทั้งๆที่ในหัวคุณพูด คำว่ารักไปแล้วนับครั้งไม่ถ้วน คุณมีพลังเพียงพออยู่แล้วดึงมันออกมา ทำให้ความตั้งใจของคุณเป็นจริงเสียที

D :

คนที่ข้ามสะพานไปแล้วครึ่งหนึ่งกลับเปลี่ยนใจถอยกลับ คนที่คุณแอบชอบอยู่เขาก็ดูมีท่าที คุณเลยคิดว่าจะสารภาพแต่แล้วก็เปลี่ยนใจในวินาทีสุดท้าย คุณแค่ดึงเอาความมั่นใจออกมาให้หมด แล้วก็รอจังหวะดี ๆ เท่านั้นเอง